เครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติ ดีต่อการรักษาฟันอย่างไร

การรักษาทางทันตกรรมในบางครั้ง ทันตแพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยสภาพฟันได้ด้วยตาเปล่า ทำให้ต้องมีการนำเครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติเข้ามาช่วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมล่าสุดทางทันตกรรมในการใช้ช่วยให้การรักษาฟันมีความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นกว่าวิธีการสแกนฟันแบบดั้งเดิม เนื่องจากเทคโนโลยีที่ดีกว่าทำให้ได้ภาพที่ออกมามีความชัดเจนมากกว่าด้วย 

การใช้งานเครื่องสแกนช่องปากแบบ 3 มิติที่คลินิกเดอะเลค ขอนแก่น นั้นจะนำมาใช้กับการหลักษาในด้านต่างๆ เช่น การ จัดฟันใส, วีเนียร์, ครอบฟัน และ รากเทียม เป็นต้น

ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าเครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติมีประโยชน์อย่างไรสำหรับการรักษาทางทันตกรรม

การทำงานของเครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติ

เทคโนโลยีเครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติช่วยให้ทันตแพทย์ได้ภาพเอกซเรย์ของฟันที่เห็นรายละเอียดชัดเจน ด้วยระบบการสแกนแบบพาโรนามา 360 องศา เพียงสแกนครั้งเดียวก็จะได้ออกมาเป็นภาพที่ต้องการและเพียงพอสำหรับทันตแพทย์แล้ว ซึ่งผลลัพธ์ออกมาจะเป็นภาพที่มีความละเอียดสูง สามารถนำภาพไปวินิจฉัย และประเมินสภาวะทางสุขภาพของช่องปากคุณได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้การรักษาดีขึ้นตามไปด้วย อย่างบริการ วีเนียร์ ขอนแก่น ที่คลินิกเดอะเลค ก็ได้นำเทคโนโลยีนี้ปรับใช้ด้วยเช่นกัน ตอบโจทย์การรักษามากกว่าเดิม

 โดยเจ้าเครื่องนี้จะเป็นแบบดิติตอลไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นฟิลม์เอ็กซเรย์แบบเครื่องเอกซเรย์ฟันแบบดั้งเดิม ที่ต้องใช้เวลาในการปริ้นท์ภาพ ซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดหรือความเสียหายได้  ให้การเอ็กซเรย์ฟันทั้งง่าย สะดวก และมีประสิทธิผลกว่าเดิมมาก

นอกจากเรื่องประสิทธิภาพแล้ว เครื่องเอกซเรย์ 3 มิติมีความปลอดภัยในการใช้งานสูง เนื่องจากปล่อยปริมาณรังสีต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการสแกน นิยมนำไปใช้รักษาทันตกรรมสำหรับเด็กอีกด้วย

ประโยชน์ของเครื่องเอกซเรย์ช่องปาก 3 มิติ

เครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติมีประโยชน์กับการรักษารากฟัน การจัดฟัน และการรักษาด้านทันตกรรมอื่นๆ อย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาและดำเนินการได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น สามารถรู้ได้ว่ามีบริเวณไหนบ้างที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา 

สำหรับการรักษารากฟันที่ขอนแก่นกับคลินิกเดอะเลค เราก็ใช้เครื่องเอกซเรย์ฟันแบบ 3D เข้ามาช่วย ซึ่งสามารถสแกนตรวจเจอรากฟันที่ได้รับการรักษาแล้วแต่เกิดการติดเชื้อ ซึ่งหากไม่ใช่การเอ็กซเรย์ฟันแบบ 3 มิติอาจไม่สามารถค้นเจอปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถสแกนภาพของฟันที่เสียหายจากโรคทางทันตกรรมได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ทันแพทย์สามารถทำการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น วางแผนการรักษาโรคได้ดีขึ้น และรักษาฟันได้ทันท่วงทีอีกด้วย

การเอกซเรย์ช่องปากแบบ 3 มิติสามารถให้ข้อมูลได้มากกว่าการเอกซเรย์ฟัน 2 มิติแบบดั้งเดิม ส่งผลให้ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคทางทันตกรรมบริเวณฟันและบริเวณโดยรอบได้อย่างถูกต้องมากขึ้น เนื่องจากเครื่องเอกซเรย์ช่องปากระบบ 3 มิติสามารถฉายให้เห็นภาพปัญหาหรือโรคทางทันตกรรมที่กำลังเกิดขึ้นได้ชัดเจนกว่ามาก ทำให้การรักษารากฟันที่หลาย ๆ คนกังวล ลดความกังวลไปได้มากเนื่องจากเทคโนยีที่ทันสมัยในการรักษาทางทันตกรรมที่ทั้งแม่นยำและสะดวกมากขึ้น ทำให้คนไข้สามารถไว้วางใจได้ว่าการรักษาจะเป็นไปมีประสิทธิภาพสูงสุด